คำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีซีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และบริษัทในเครืออื่นๆ (ต่อไปในประกาศฉบับนี้เรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายและกฎระเบียบอื่นๆ ที่จะประกาศใช้ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม การใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่างๆ ของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
คำนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยตามงบการเงินรวมของบริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
“ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data)” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data)” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Processing)” หมายถึง การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
“เจ้าของข้อมูล (Data Subject)” หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor)” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“ท่าน” หมายความรวมถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะลูกค้า พนักงาน กรรมการ นักลงทุน ผู้ถือหลักทรัพย์ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่างๆ ของบริษัท
บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
- 1.1 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
- 1.2 ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- 1.3 ความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านต่อการเข้าทำสัญญา
- 1.4ได้รับความยินยอมที่สมบูรณ์จากท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่าน
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
- 2.1 เพื่อประโยชน์ในการยืนยันตัวตนของท่าน รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับท่าน
- 2.2 เพื่อการสรรหาบุคลากรและก่อนที่บริษัทจะเข้าทำสัญญาจ้างแรงงานกับท่าน
- 2.3 เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการปฏิบัติตามกฎหมายภาระข้อผูกพันตามกฎหมายหรือตามสัญญาจ้างงาน
- 2.4 เพื่อที่จะปฏิบัติตามสัญญาหรือก่อนที่บริษัทจะเข้าทำสัญญากับท่าน
- 2.5 เพื่อการซื้อขาย การทำธุรกรรม รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนตามกระบวนการ กฎหมายและกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้
- 2.6 เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้
- 2.7 เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานในการจ้างตามสัญญา
- 2.8 เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการตรวจสอบธุรกิจของบริษัททั้งภายในและภายนอก
- 2.9 เพื่อป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้งบริษัทและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
- 2.10 เพื่อป้องกันหรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล ซึ่งรวมถึงการเฝ้าระวังโรคระบาด
- 2.11 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน
- 2.12 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัทที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัท
- 2.13 เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะตามความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2 บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจ
แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวม | รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ |
- ข้อมูลที่ได้จากท่านโดยตรง: ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสรรหาบุคลากร การขอรับทุนการศึกษา การรับสมัครฝึกงาน เช่น ใบสมัครงาน, ใบรับสมัครฝึกงาน, ใบสมัครขอรับทุนการศึกษา, ประวัติการทำงานโดยย่อ (CV หรือเรซูเม่ (Resume) รวมไปถึงเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น
- ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากเว็บไซต์รับสมัครงาน (Recruiter Website) ตัวแทนจัดหางาน (Headhunter) หรือจากพนักงานปัจจุบันของบริษัท - ข้อมูลที่บริษัทได้รับระหว่างกระบวนการสรรหาบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ได้รับจากการโทรศัพท์หรือวีดีโอคอล (Video Call) - ข้อมูลที่บริษัทได้รับหรืออาจได้รับเมื่อท่านเข้าใช้ระบบ เครื่องมือหรือเว็บไซต์ของบริษัท - ใบสมัครงานหรือข้อมูลต่างๆ ในเอกสารที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัทเมื่อเริ่มต้นหรือระหว่างกระบวนการสรรหาบุคลากร การขอรับทุนการศึกษา การรับสมัครฝึกงาน - การสนทนาโต้ตอบกับท่านโดยการสัมภาษณ์ ประชุม หรือโดยวิธีอื่น เช่น อุปกรณ์บันทึกภาพและ/หรือเสียง เป็นต้น - เอกสารอ้างอิงจากนายจ้างเดิม เช่น ระยะเวลาการทำงาน ผลการปฏิบัติงานระหว่างการทำงานให้กับนายจ้างเดิม เป็นต้น - ข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น LinkedIn, JobsDB, Facebook เป็นต้น - ข้อมูลที่ได้จากผู้ให้บริการตรวจสอบประวัติการทำงาน ข้อมูลจากบริษัทข้อมูลเครดิต ข้อมูลประวัติอาชญากรรม |
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส สถานภาพทางทหาร หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฎอยู่บนเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ภาพถ่าย ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ - ข้อมูลการศึกษา: รายละเอียดประวัติการศึกษา ใบรับรองผลการศึกษา (Transcript) หลักฐานการจบการศึกษา - ข้อมูลครอบครัว: ชื่อ และข้อมูลการติดต่อของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งคู่สมรส และบุตร - ข้อมูลการทำงาน: รายละเอียดเกี่ยวกับอาชีพ การเป็นสมาชิกองค์กรทางวิชาชีพ ความเห็นของนายจ้าง คุณสมบัติ ทักษะ ประสบการณ์ การฝึกอบรม และประวัติการทำงาน (CV หรือ Resume) - ข้อมูลทางการเงินและธุรกรรม: ข้อมูลเงินเดือน และผลประโยชน์ของท่าน (เช่น โบนัส, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินบำนาญ และการประกันภัย) - ข้อมูลอื่นๆ: ข้อมูลที่บริษัทได้รับหรืออาจจะได้รับระหว่างการสัมภาษณ์งาน - ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) : เช่น ข้อมูลศาสนา เชื้อชาติ ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลทางการแพทย์ ประวัติอาชญากรรม |
3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า และ/หรือพันธมิตรทางธุรกิจ
แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวม | รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ |
- ข้อมูลที่ได้จากท่านโดยตรง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าเป็นลูกค้า คู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท
- เมื่อท่านซื้อสินค้า และ/หรือ ขอรับบริการใดๆ จากบริษัทโดยตรง หรือผ่านทางบุคคลภายนอก - แบบสำรวจความเห็นและการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท - เมื่อท่านเข้าร่วมในการแข่งขัน หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัท - ข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลภายนอก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าเป็นลูกค้า คู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท เช่น ข้อมูลเครดิต ข้อมูลทางการค้า ข้อมูลจากลูกค้าของบริษัทหรือลูกค้าของท่าน ข้อมูลจากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น - การสนทนาระหว่างท่านและบริษัท รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด - ข้อมูลที่บริษัทได้รับหรืออาจได้รับเมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัท - เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลผ่านทาง Social Media ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่ท่านเลือกให้ปรากฏต่อสาธารณะเท่านั้น |
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เอกสารสำคัญของนิติบุคคลที่ออกให้โดยราชการ (กรณีคู่ค้า/พันธมิตรทางธุรกิจเป็นนิติบุคคล) หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ภาพถ่าย ภาพหรือบันทีกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ - ข้อมูลทางการเงิน: ข้อมูลบัญชีธนาคาร ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน เลขที่บัตรเครดิต และชื่อผู้ถือบัตร และรายละเอียดของบัตรเครดิต - ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ - ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data): เช่น ข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ และข้อมูลความพิการ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม |
3.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือหุ้น
แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวม | รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ |
- ข้อมูลที่ได้จากท่านโดยตรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจองหุ้น/หุ้นกู้ เข้าชื่อซื้อหุ้น/หุ้นกู้ การจดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นหรือผู้ถือหุ้นกู้หรือจากเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น
- การติดต่อกับท่านผ่านการประชุมผู้ถือหุ้น การประชุมสามัญ/วิสามัญประจำปีของบริษัท หรืออุปกรณ์อื่นๆ เช่น กล้องวงจรปิด อุปกรณ์บันทึกภาพ เป็นต้น - การสนทนาระหว่างท่านและบริษัท รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด - ข้อมูลที่บริษัทได้รับหรืออาจได้รับเมื่อท่านเข้าใช้ระบบ เครื่องมือหรือเว็บไซต์ของบริษัท - การเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัท |
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด สถานภาพการสมรส หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล์ - ข้อมูลอาชีพ: ประสบการณ์และประวัติการทำงาน และบริหารหรือการดำรงตำแหน่งในบริษัทอื่นหรือกิจการอื่นๆ - ข้อมูลครอบครัว: ชื่อ และข้อมูลอื่นๆ ของคู่สมรสและสมาชิกในครอบครัว และผู้อยู่ในความอุปการะของท่าน รวมถึงการถือหุ้น ประวัติการจ้างงาน และการบริหารหรือการดำรงตำแหน่งในบริษัทหรือกิจการอื่นๆ ของบุคคลดังกล่าว - ข้อมูลทางการเงินและธุรกรรม: ข้อมูลบัญชีธนาคาร - รายละเอียดการถือหุ้น: เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น บันทึกของผู้ถือหุ้น รวมถึงการถือครองหุ้น จำนวนหุ้น/หุ้นกู้ การจองหุ้น/หุ้นกู้ การซื้อหุ้น/หุ้นกู้ การจำหน่ายหุ้น สิทธิในการรับเงินปันผล การลงคะแนนเสียง การแต่งตั้งผู้รับมอบฉันทะ คำเสนอซื้อและเสนอขาย เงื่อนไขในการใช้สิทธิ และวันใช้สิทธิ สำเนาข้อซักถามและข้อร้องเรียนของผู้ถือหุ้น และการติดต่ออื่นๆ ระหว่างท่านและบริษัทในฐานะผู้ถือหุ้น - ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญา : ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาผู้ถือหุ้นของท่าน - ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data): เช่น ข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ |
3.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มาติดต่อ
แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวม | รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ |
- ข้อมูลที่ได้จากท่านโดยตรง เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น
- การบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิด อุปกรณ์บันทึกภาพ - การสนทนาระหว่างท่านและบริษัท รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด - เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท - การเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของบริษัท |
- ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล เพศ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ภาพหรือบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV)
- ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ - ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ที่อยู่ IP คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน และข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ |
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลอื่นและ / หรือหน่วยงานอื่น
บริษัทอาจมีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทในกลุ่ม บุคคลอื่นและ/หรือหน่วยงานอื่น ทั้งในและต่างประเทศเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของบริษัทและการให้บริการแก่ท่าน หรือตามความจำเป็นตามสมควรอื่นๆ และอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานภาครัฐตามข้อบังคับของกฎหมายหรือตามคำสั่งศาลหรือตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าว ข้อมูลส่วนบุคคลที่เปิดเผยจะได้รับการเก็บรักษาเป็นความลับ ทั้งในรูปเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งในระหว่างการส่งผ่านข้อมูลทุกขั้นตอน และบริษัทจะดำเนินการตามที่กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ระยะเวลาที่บริษัทยังมีความสัมพันธ์หรือมีธุรกรรมกับท่านและอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมายหรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัท
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังนี้
6.1 สิทธิขอถอนความยินยอม
ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนนั้น จะมีข้อจำกัดสิทธิทางกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
6.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทและอาจจะขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
6.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นได้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
6.4 สิทธิขอคัดค้าน
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ ตามที่กฎหมายกำหนด
6.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
6.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
6.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
6.8 สิทธิร้องเรียน
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ
7. คุกกี้
บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัท เช่น www.thaicapital.co.th หรือบนอุปกรณ์อื่นตามแต่บริการที่เจ้าของข้อมูลใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัท และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัท
8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะดำเนินการให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบายและแนวปฏิบัติในด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท ให้แก่พนักงานของบริษัทและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การดัดแปลงแก้ไข การทำลายข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงมิให้มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทจะสนับสนุนและส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามนโยบายและกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องและ มีประสิทธิภาพ
9. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและผู้แทน
บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อได้รับคำร้องขอจากท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายของท่าน โดยส่งคำร้องขอผ่าน Data Protection Officer (DPO) ที่
อีเมล: DPO@thaicapital.co.th หรือ หมายเลขโทรศัพท์: 02-685-3600
ในกรณีที่ท่าน ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใดๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
10. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่และบุคคลเฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่และบุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
11. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับ และให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้สอดคล้องตามกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
12. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.thaicapital.co.thโดยมีวันที่ของเวอร์ชั่นล่าสุดกำกับไว้ อย่างไรก็ดี บริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบประกาศฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้ของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไขและนำขึ้นประกาศในช่องทางข้างต้นแล้ว ถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
13. การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
บริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน
87/2 อาคารซีอาร์ซีทาวเวอร์ ชั้น 45 ออลซีซั่นส์เพลส ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
โทรศัพท์: 66(0) 2685-3600 โทรสาร: 66(0) 2685-3607
อีเมล: DPO@thaicapital.co.th